เมนู

ไม้สะแกแทง เที่ยวไป พบห่อสิ่งของของตน ซึ่งห้อยอยู่ที่ต้นสะแกต้น
หนึ่ง ถือเอาแล้วก็หลีกไป.
แม้พระศาสดาทรงพาภิกษุสงฆ์ไป เสวยบุญของพระสีวลีเถระ
ตลอดกาลประมาณเดือนหนึ่งนั่นแลอีก เสด็จเข้าไปสู่บุพพาราม. ลำดับ
นั้น ภิกษุแก่เหล่านั้นล้างหน้าแต่เช้าตรู่ เดินไปด้วยตั้งใจว่า พวกเราจัก
ดื่มข้าวต้มในเรือนของนางวิสาขา ผู้ถวายอาคันตุกภัต ดื่มข้าวต้มแล้ว
ฉันของเคี้ยวแล้วนั่งอยู่.

นางวิสาขาถามถึงที่อยู่ของเรวตะ


ลำดับนั้น นางวิสาขาถามภิกษุแก่เหล่านั้นว่า "ท่านผู้เจริญ ก็
ท่านทั้งหลายได้ไปที่อยู่ของเรวตเถระกับพระศาสดาหรือ ?"
ภิกษุแก่. อย่างนั้น อุบาสิกา.
วิสาขา. ท่านผู้เจริญ ที่อยู่ของพระเถระน่ารื่นรมย์หรือ ?
ภิกษุแก่. ที่อยู่ของพระเถระนั้นเป็นสถานที่น่ารื่นรมย์ จักมีแต่
ที่ไหน ? อุบาสิกา ที่นั้นรกด้วยไม้สะแกมีหนามขาว เป็นเช่นกับสถาน
ที่อยู่ของพวกเปรต.
ครั้งนั้น ภิกษุหนุ่มสองรูปพวกอื่นมาแล้ว. อุบาสิกาถวายข้าวต้ม
และของควรเคี้ยวทั้งหลายแม้แก่ภิกษุหนุ่มเหล่านั้นแล้ว ถามอย่างนั้น
เหมือนกัน. ภิกษุเหล่านั้น กล่าวว่า "อุบาสิกา พวกฉันไม่อาจ
พรรณนาได้ ที่อยู่ของพระเถระ เป็นเช่นกับเทวสภาชื่อสุธรรมาดุจตกแต่ง
ขึ้นด้วยฤทธิ์."
อุบาสิกาคิดว่า "ภิกษุพวกที่มาครั้งแรกกล่าวอย่างอื่น ภิกษุพวกนี้

กล่าวอย่างอื่น ภิกษุพวกที่มาครั้งแรก ลืมอะไรไว้เป็นแน่ จักกลับไป
ในเวลาคลายฤทธิ์แล้ว ส่วนภิกษุพวกนี้จักไปในเวลาที่พระเถระตกแต่ง
นิรมิตสถานที่ด้วยฤทธิ์" เพราะความที่ตนเป็นบัณฑิตจึงทราบเนื้อความ
นั้น ได้ยืนอยู่แล้วด้วยหวังว่า "จักมูลถามในกาลที่พระศาสดาเสด็จมา."
ต่อกาลเพียงครู่เดียวแต่กาลนั้น พระศาสดาอันภิกษุสงฆ์แวดล้อม เสด็จ
ไปสู่เรือนของนางวิสาขา ประทับนั่งเหนืออาสนะอันเขาตกแต่งไว้แล้ว
นางอังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขโดยเคารพในเวลาเสร็จภัตกิจ
ถวายบังคมพระศาสดาแล้ว ทูลถามเฉพาะว่า "พระเจ้าข้า บรรดาภิกษุ
ที่ไปกับพระองค์ บางพวกกล่าวว่า ที่อยู่ของพระเรวตเถระ เป็นป่ารก
ด้วยไม้สะแก บางพวกกล่าวว่า เป็นสถานที่รื่นรมย์ ที่อยู่ของพระเถระ
นั่นเป็นอย่างไรหนอแล ?"
พระศาสดาทรงสดับคำนั้นแล้วตรัสว่า "อุบาสิกา จะเป็นบ้านหรือ
เป็นป่าก็ตาม พระอรหันต์ทั้งหลายย่อมอยู่ในที่ใด ที่นั้นน่ารื่นรมย์แท้ "
ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
9. คาเม วา ยทิ วา รญฺเญ นินฺเน วา ยทิ วา ถเล
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ ตํ ภูมิรามเณยิยกํ.
"พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด เป็นบ้าน
ก็ตาม เป็นป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม,
ที่นั้นเป็นภูมิสถานน่ารื่นรมย์."

แก้อรรถ


ในพระคาถานั้น มีความว่า พระอรหันต์ทั้งหลาย ย่อมไม่ได้กาย-
วิเวกภายในบ้านก็จริง, ถึงดังนั้น ย่อมได้จิตตวิเวกอย่างแน่นอน, เพราะ
อารมณ์ทั้งหลายแม้เปรียบดังของทิพย์ ย่อมไม่อาจทำจิตของพระอรหันต์
เหล่านั้นให้หวั่นไหวได้, เพราะเหตุนั้น จะเป็นบ้านหรือจะเป็นที่ใดที่หนึ่ง
มีป่าเป็นต้น, พระอรหันต์ทั้งหลายย่อมอยู่ในที่ใด. บาทพระคาถาว่า
ตํ ภูมิรามเณยฺยกํ ความว่า ภูมิประเทศนั้น เป็นที่น่ารื่นรมย์แท้.
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มี
โสดาปัตติผลเป็นต้นแล้ว.

พวกภิกษุปรารภถึงความเป็นไปของพระสีวลี


โดยสมัยอื่นอีก ภิกษุทั้งหลายสนทนากันว่า "ผู้มีอายุทั้งหลาย
เพราะเหตุไรหนอแล ท่านพระสีวลีเถระ จึงอยู่ในท้องของมารดา
ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ? เพราะกรรมอะไร จึงไหม้แล้วในนรก ?
เพราะกรรมอะไร จึงถึงความเป็นผู้มีลาภเลิศ และมียศเลิศอย่างนั้น ?"
พระศาสดาทรงสดับถ้อยคำนั้นแล้ว ตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอกล่าวอะไรกัน ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า "กถาชื่อนี้
พระเจ้าข้า" ดังนี้แล้ว เมื่อจะตรัสบุรพกรรมของท่านพระสีวลีเถระนั้น
จึงตรัสว่า :-

บุรพกรรมของพระสีวลี


"ภิกษุทั้งหลาย ในกัลป์ที่ 91 แต่กัลป์นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงพระนามว่าวิปัสสี ทรงอุบัติในโลกแล้ว สมัยหนึ่งเสด็จเที่ยวจาริกไปใน